The Montessori Baby เด็กมอนเตสซอรีภาคทาร แม่ของฉันเป็นนางฟ้า แค่นิดเดียว ส่วนนี้หนูหวงที่สุด ต่อให้ผมยุ่งฟูขนาดนี้ก็เถอะ

🔺 ต่อให้ผมยุ่งฟูขนาดนี้ก็เถอะ
ผลงานโดย “ชินสุเกะ โยชิทาเกะ”
เป็นหนังสือชุดเดียวกับ #ถ้าร้อนก็ถอดเสื้อสิ
มาในรูปเล่มกะทัดรัดและวิธีเล่าเรื่องแบบเดียวกัน
คือเป็นประโยคสั้นๆ หน้าละหนึ่งประโยค
แต่ล้วนพูดถึงการมองหาความหวังเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน
เป็นหนังสือที่เด็กอ่านได้ ส่วนผู้ใหญ่อ่านแล้วจะยิ่งได้แง่มุมลึกซึ้งที่ทั้งกินใจและช่วยเยียวยาจิตใจ
“ต่อให้ผมยุ่งฟูขนาดนี้ก็เถอะ” บรรจุเรื่องราวทั้งของเด็กหญิงที่อยากเป็นนักร้อง คุณตาที่เพิ่งค้นพบสิ่งที่ถนัด ชายหนุ่มที่เพิ่งได้คบกับคนที่ชอบ และคนอื่นๆ อีกมากมายซึ่งอาจซ้อนทับกับชีวิตเรา
เป็นเรื่องราวที่จะช่วยสะกิดให้ได้คิดถึงแง่มุมในชีวิตตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนเรื่องใหญ่ ให้เราเห็นว่าแม้จะเจอเรื่องร้ายทำให้ใจห่อเหี่ยว แต่ถ้าเปลี่ยนมุมคิด พลิกมุมมอง ก็จะเห็นความหวังซ่อนอยู่ในชีวิตเสมอ
ความพิเศษของเล่มนี้คือ สามารถอ่านได้ทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง ถ้าอ่านจากหน้าไปหลังตามปกติแล้ว อย่าลืมลองอ่านย้อนกลับจากหลังมาหน้าเพื่อสัมผัสอีกอารมณ์ของเรื่องราวดูด้วยนะ ; )

🔺 แม่ของฉันเป็นนางฟ้า โดย โซฟี คินเซลลา
Chapter Book ชุดแรกจาก SandClock Books
สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อเอลลา บรูก...
แม่ฉันดูเป็นคนธรรมดาเหมือนแม่คนอื่นๆ นั่นแหละ แต่ความจริงไม่ใช่หรอก แม่ฉันแปลงร่างเป็นนางฟ้าได้
แค่ย่ำเท้าสามครั้ง ปรบมือ ส่ายก้น แล้วพูดว่า “มาร์ชเมลโล”...จากนั้นก็ ปิ๊ง! แม่กลายเป็นนางฟ้าคุณแม่ทันที!
เอลลาเก็บความลับสำคัญนี้ไว้ เรื่องที่แม่ร่ายเวทมนตร์ได้ และเรื่องที่ว่าเวทมนตร์ของแม่มักมีอะไรผิดพลาดนิดๆ หน่อยเสมอ ซึ่งเอลลา เด็กหญิงธรรมดาๆ คนนี้นี่แหละที่จะคอยเข้ามากอบกู้สถานการณ์เอง
เรื่องราวเวทมนตร์สุดปั่นป่วนของนางฟ้าคุณแม่กับเด็กหญิงเอลลาเริ่มต้นขึ้นแล้ว และไม่มีทีท่าจะหยุดสนุกกันง่ายๆ ซะด้วยสิ!
--------
สำหรับวัย 5 ขวบขึ้นไป

🔺 The Montessori Baby
ถึงเวลามองเด็กทารกในมุมใหม่แล้ว
จากผลงานการเขียนร่วมของซีโมน เดวีส์ ผู้เขียนหนังสือขายดี เด็กมอนเตสซอรี ภาคเตาะแตะ และจุนนิฟา อูโซดีเค หนังสือ เด็กมอนเตสซอรี ภาคทารก เล่มนี้แสดงวิธีเลี้ยงลูกตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 1 ขวบ ด้วยความรัก การเคารพกัน ความเข้าใจลึกซึ้ง และความรู้สึกถึงความสงบอันน่าทึ่งตามหลักการที่พัฒนาโดยนักการศึกษา ดร.มาเรีย มอนเตสซอรี
หนังสือเล่มนี้จึงเต็มไปด้วยหลายร้อยไอเดียที่ใช้ได้จริงเพื่อทำความเข้าใจว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับลูก และคุณจะให้การช่วยเหลืออย่างมีสติอย่างไรในการเรียนรู้และพัฒนาการของลูก รวมทั้งวิธีทำสิ่งต่อไปนี้
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเป็นพ่อแม่ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา และจิตวิญญาณ
เฝ้าสังเกตอย่างกระตือรือร้นเพื่อจะได้เข้าใจว่าที่จริงแล้วลูกกำลังบอกอะไรกับคุณ
สร้างพื้นที่มอนเตสซอรีในบ้าน รวมทั้งพื้นที่ ‘พร้อมและใช่’ ที่ลูกจะทำอะไรก็ได้โดยไม่จำกัดขอบเขต
จัดกิจกรรมที่กระตุ้นการเคลื่อนไหวร่างกายและพัฒนาการทางภาษาของลูกตามจังหวะและความพร้อมของแต่ละคน
เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กจิตใจมั่นคงที่พร้อมจะสำรวจโลกด้วยความมั่นใจ

#แค่นิดเดียว
คุณแม่พาทารกน้อยแรกเกิดกลับมาที่บ้าน นัทจังเป็นพี่สาวแล้ว คุณแม่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการเลี้ยงน้อง นัทจังจึงพยายามทำหลายๆ เอง ทั้งรินนมใส่แก้ว ติดกระดุมเสื้อ มัดผม และไกวชิงช้าในสวนใกล้บ้าน ถึงจะทำสำเร็จ “แค่นิดเดียว” แต่นัทจังก็พยายามเต็มที่ แล้วคุณแม่จะเห็นบ้างไหมนะ
-------------------------
🔺 แค่นิดเดียว” เป็นหนังสือนิทานภาพ
เขียนโดย “ทากิมูระ ยูโกะ” คุณแม่ลูกสาม
ถ่ายทอดผ่านภาพวาดฝีมือ “ซูซูกิ นางาโกะ” ซึ่งทั้งเรียบง่ายและมีสีสันอ่อนโยนละมุนละไม
“แค่นิดเดียว” เล่าเรื่องของหนูน้อยนัทจังซึ่งกลายเป็นพี่สาวหมาดๆ เมื่อคุณแม่คลอดน้องชายและพากลับมาที่บ้าน นัทจังเห็นคุณแม่ยุ่งอยู่กับการเลี้ยงน้อง จึงไม่อยากกวน และพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเองเท่าที่มือน้อยๆ พอจะทำได้ แม้จะ “แค่นิดเดียว” ก็ตาม
ทากิมูระ ยูโกะ เขียนนิทานเรื่องนี้จากประสบการณ์ในชีวิตเธอเอง ถ่ายทอดความรู้สึกของเด็กๆ ที่เป็นพี่ได้อย่างกินใจ เล่าถึงการก้าวข้ามความรู้สึกเศร้าสร้อยของการต้องเสียสละบางอย่างเมื่อกลายเป็นพี่ เช่น ความรักและความใกล้ชิดกับแม่ แต่เรื่องราวก็ได้แสดงให้เห็นถึงความรักที่แม่มีให้ลูกอย่างไม่เสื่อมคลายเช่นกัน
เป็นนิทานน่ารัก อบอุ่น และอ่อนโยน ซึ่งจะช่วยสื่อความรู้สึกจากแม่ถึงลูกว่า ไม่ว่าอย่างไรความรักที่ให้ลูกนั้นก็ไม่ได้มี “แค่นิดเดียว” เลย

🔺 ส่วนนี้หนูหวงที่สุด” เขียนโดย
“เอ็มมิ ซากิโกะ” สูติ-นรีแพทย์และคุณแม่ลูกสอง
เธอคิดว่า “น่าจะมีพื้นที่ให้เราคิดเรื่อง ‘เพศ’ กันอย่างจริงจังได้แบบง่ายๆ และสบายใจกว่านี้” จึงเริ่มรณรงค์เรื่องการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาแก่เด็กๆ เรื่อยมาตั้งแต่ปี 2005
สำหรับเล่มนี้เธอเน้นสื่อสารกับเด็กๆ ตั้งแต่วัยอนุบาล ทั้งเด็กหญิง และเด็กชาย ให้ได้เริ่มรู้จักอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญเป็นพิเศษ นั่นคืออวัยวะเพศ รวมถึงอวัยวะอื่นๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับเรื่องเพศ ได้แก่ ก้น หน้าอก และปาก
โดยเน้นให้เด็กๆ รู้จักหวงแหนอวัยวะสำคัญของตน รู้จักเคารพร่างกายตัวเองและผู้อื่น รู้ว่าพฤติกรรมใดที่คนอื่นไม่ควรทำกับเราและเราไม่ควรทำกับคนอื่นเช่นกัน รวมถึงสอนให้รู้ว่า #ควรทำอย่างไรเมื่อถูกคุกคามทางเพศ
ผู้เขียนคิดว่า การพูดคุยเรื่องเพศกับเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก อาจเป็นเรื่องยากสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง จึงเขียนหนังสือ “ส่วนนี้หนูหวงที่สุด” เล่มนี้ขึ้นมา โดยเล่าเรื่องง่ายๆ ด้วยประโยคสั้นๆ ไม่ซับซ้อน พร้อมภาพประกอบน่ารัก สวยงาม เป็นมิตร และคำแนะนำท้ายเล่มสำหรับผู้ใหญ่ทุกคน เพื่อเป็นแนวทางและแนวคิดสำหรับสื่อสารพูดคุยกับเด็กๆ
เเธอหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นสื่อกลางช่วยให้ผู้ใหญ่ใช้พูดคุยเรื่องเพศกับเด็กได้ง่ายขึ้น อย่างเป็นปกติธรรมดาขึ้น ด้วยเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ควรต้องบอกต้องสอนกันไว้แต่เนิ่นๆ ในโลกปัจจุบันที่การทารุณทางเพศเด็กไม่ใช่เรื่องไกลตัว